ช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์เศรษฐกิจธุรกิจออนไลน์ มาแรงกว่าแต่ก่อนเกิดธุรกิจและบริการแบบใหม่ขึ้นมาเยอะแยะมาก ๆ และสถานการณ์ปัจจุบัน ธุรกิจสโตร์แบบออฟไลน์ ร้านค้าต่าง ๆ ก็กลับมาทำให้บริการอีกครั้ง ผู้บริโภคก็พากันออกไปช้อปปิ้งอย่างสนุกสนาน ยิ่งเข้าสู่เดือน ธันวาคม เดือนแห่งวันหยุดเทศกาลต่าง ๆ การเลือกซื้อของขวัญของฝากก็มากขึ้น ทำให้แบรนด์หันมาใส่การเลือกใช้ถุงกระดาษมีโลโก้ Food Packing หรือ Packaging มีปริมาณความต้องการเยอะขึ้นเช่นกัน การปรับเปลี่ยนดีไซน์ ออกแบบลายกราฟิกให้เข้ากับเทศกาล อย่างเช่น คริสต์มาส ปีใหม่ ตรุษจีน หรือวันวาเลนไทน์ เป็นต้น 

เพราะฉะนั้นในฐานะที่คุณเป็นแบรนด์ กำลังสนใจที่จะสั่งผลิต ถุงกระดาษมีโลโก้ คุณต้องทำความเข้าใจว่ามีอะไรบ้าง

สิ่งที่ควรรู้ก่อนสั่งทำถุงกระดาษมีโลโก้ 

• ทำความเข้าใจความต้องการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 
  พูดถึงเรื่องการทำความเข้าในที่นี้ สิ่งที่คุณต้องเข้าใจ อันดับแรก ๆ คือ จุดประสงค์การใช้งาน นำไปใช้อะไร ต้องมีกี่ขนาดไซซ์ไหนบ้าง ต้องแจ้งสัดส่วน และน้ำหนักที่ต้องรองรับ ของถุงกระดาษที่ต้องการพิมพ์โลโก้ให้กับโรงงานและผู้ออกแบบ ได้ทำงานง่ายขึ้น ผู้ดีไซน์จะได้ทำการออกแบบได้ถูกต้องตามธีมของแบรนด์ ส่วนทางโรงงานจะได้จัดเตรียมถุงกระดาษได้ตรงตามความต้องการจริง ๆ หรือหากมีปัญหาอะไรจะได้จัดการแก้ไข เช่นการออกแบบบางอย่าง ลายกราฟิกมากเกินไป อาจจะใช้ในการผลิตไม่ได้ จะทำให้ถุงกระดาษเสี่ยงขาดง่าย และแนะนำให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้นความเข้าใจในแบรนด์ และจุดประสงค์สำคัญที่สุด 
  
  
• การเลือกใช้กระดาษที่ถูกประเภท เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน
  ถุงกระดาษมีโลโก้ที่เราเห็นกันทั่วไปตามย่านช้อปปิ้ง หรือสังเกตจากที่เราได้รับมาก็ได้ว่า ค่อนข้างจะมีถุงกระดาษที่พื้นผิวต่างกันหลายแบบ ซึ่งถุงกระดาษจริง ๆ แล้ว แบ่งออกได้ 3 แบบ ทั้ง 3 แบบมีอะไร เดี๋ยวเราจะลงรายละเอียดให้ได้ทราบกัน 
  
  

  แบบที่ 1 กระดาษคราฟท์ (Kraft Paper)
  มีลักษณะพื้นผิวหยาบเล็กน้อย มีผิวสีน้ำตาล เป็นวัสดุที่นิยมเลือกมาทำบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ถุงกระดาษประเภทกระดาษครฟท์จะไม่สามารถโดนน้ำได้โดยตรง อย่างมากก็เป็นไอน้ำเล็กน้อย เนื่องจากมีขนาดความหนาเพียงแค่ 70-300 แกรม ทำให้เกิดข้อจำกัดเรื่องการรับน้ำหนักสิ่งของที่จะบรรจุลงไป ส่วนมากถุงกระดาษคราฟท์ที่เราเห็น มักจะใส่กล่องอาหาร เบเกอรี่เล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงเสื้อผ้า

  ซึ่งกระดาษคราฟท์ก็ยังมีเฉดสีให้ได้เลือกกันอีกด้วย ตัวอย่าง สีขาว สีเหลืองทอง สีเหลืองธรรมชาติ สีธรรมชาติ หรือสีน้ำตาลที่เราเห็นคุ้นตามากที่สุด ข้อดีของถุงกระดาษชนิดนี้จะมีความอ่อน สามารถดัดงอปรับรูปทรงได้เล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถเลือกใส่สินค้าที่มีน้ำหนักเบาและไม่เปียกน้ำ หรือโอกาสรั่วซึม เพราะจะทำให้ขาดได้ และข้อดีที่เรามักจะเห็น แบรนด์ที่มีธีม Eco Friendly เลือกใช้ถุงกระดาษคราฟท์ คือ สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้อีกด้วย 

  แบบที่ 2 อาร์ตการ์ด (Artcard Paper)
  ถือเป็นกระดาษตัวท็อปสุดยอดที่แข็งแรงทนทาน ที่สุดแล้วในหมวดหมู่ถุงกระดาษ ซึ่งกระดาษ อาร์ตการ์ด มีความหนาอยู่ที่ประมาณ 170-400 แกรม มีพื้นผิวกระดาษที่เรียบเนียน ที่สำคัญยังกันน้ำได้ดีในระดับหนึ่ง และสามารถเพิ่มลูกเล่นความแข็งแรงด้วยการเคลือบ PVC ได้อีกชั้นหนึ่งกระดาษอาร์ตการ์ด ยังช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ด้วย ถ้านึกไม่ออกว่ากระดาษอาร์ตการ์ดเป็นอย่างไร ให้นึกถึงกล่องอาหารเสริม กล่องสบู่ กล่องเครื่องสำอาง หรือกล่องขนมทั่วไป

  แบบที่ 3 กระดาษปอนด์ (Pond Paper)
  กระดาษปอนด์เป็นที่นิยมในการนำมาบรรจุภัณฑ์สินค้าที่มีน้ำหนักเบาไม่หนักมากนัก โดยตัวกระดาษปอนด์มีต้นทุนต่ำ เนื่องจากมีส่วนผสมของเยื่อใยสั้นมากกว่าเยื่อใยยาว สามารถดูดซึมหมึกได้ดี เนื้อกระดาษมีผิวเรียบ
  มีความหนาอยู่ที่ 80-120 แกรม หากทำเป็นถุงกระดาษก็เหมาะกับการนำไปสกรีนลวดลายลงหรือพิมพ์โลโก้ลงบนถุงกระดาษ
  
  

• Artwork ที่ต้องการพิมพ์ลงบนถุงกระดาษ 
  ส่วนใหญ่แล้วการพิมพ์กราฟิกลงบนถุงกระดาษมักจะเลือกเป็นตัว โลโก้ เนื่องจากใช้สีในการพิมพ์น้อย 1-4 สีเป็นหลัก หรือบางแบรนด์อาจจะใช้ถึง 5 สี ซึ่งยิ่งมีสีสันมาก ราคาการผลิตก็จะเพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ดีไซน์และสีที่เลือกใช้มีผลต่อการประเมินราคาในการผลิต และกระดาษที่เลือกใช้ผลิตถุงกระดาษก็มีผลต่อราคา เช่นกัน
  
  ตัวอย่าง ถ้าแบรนด์ของคุณเป็นประเภทอาหารคลีน หรืออาหารเสริม การใช้ถุงกระดาษมีโลโก้ แบบกระดาษคราฟท์ และพิมพ์แค่โลโก้อย่างเดียว ก็จะทำให้ประหยัดต้นทุนในการผลิตไปได้เยอะมาก
  
  
• ลูกเล่นพิเศษหลังพิมพ์โลโก้ถุงกระดาษ 
  

  แบบที่ 1 งานเคลือบเงา
  ตัวเลือกในการเคลือบเงาทุกกระดาษมีหลายชนิดมาก เช่น เคลือบ UV เคลือบ PVC ด้าน และ เคลือบ PVC เงา ถุงกระดาษมีโลโก้ ที่มีการเลือกลูกเล่นในการเคลือบ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง และคงทนมากกว่างานที่ไม่ได้เคลือบ

  แบบที่ 2 เพิ่มความหรูหรา ด้วยการปั๊ม
  ตัวเลือกในการปั๊มจะมีแบบปั๊มนูน ปั๊มฟอยด์เงิน ฟอยด์ทอง และทำ Spot UV เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์น่าเชื่อถือ ซึ่งการปั๊มฟอยด์เป็นวิธีที่แบรนด์นิยมกันมาก และถุงกระดาษที่ผู้รับได้รับนั้นสามารถนำไปใช้ซ้ำในโอกาสอื่น ๆ ได้อีก

  ส่วนการทำ Spot UV เป็นการเคลือบเฉพาะจุด เป็นการเพิ่มลูกเล่นผิวสัมผัสที่ต่างกัน ในจุดที่ทำ Spot UV ก็จะมีความมันวาว จะนิยมทำลงบนกระดาษเคลือบด้านอีกที

  แบบที่ 3 กระดาษรองก้นถุง และหูหิ้วถุงกระดาษ
  กระดาษรองก้นถุง จะนิยมใส่ในถุงกระดาษที่มีน้ำหนักมาก เพื่อป้องกันถุงขาด หรือเสียทรง ในส่วนของหูหิ้วถุงกระดาษ มีตัวเลือกในแบบเชือกเกลียว เชือกเปีย หรือริ้บบิ้น แล้วแต่ธีมการดีไซน์ตามความเหมาะสม

• เลือกโรงงานผลิตที่มีประสบการณ์
  การสั่งผลิตถุงกระดาษมีโลโก้ เพื่อซัพพอร์ตภาพลักษณ์ของแบรนด์ เราควรจะเลือกผู้ที่มีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพ อย่าง งานพิมพ์ถูก เพราะเป็นโรงงานผลิตพร้อมจัดจำหน่าย มีคุณภาพและตัวอย่างงานลูกค้าชัดเจน ซึ่งในการผลิตถุงกระดาษมีโลโก้ ของงานพิมพ์ถูก ให้คำปรึกษาเรื่องการดีไซน์และออกแบบให้ฟรีอีกด้วย แถมกระดาษที่ใช้ผลิตยังเป็นกระดาษคุณภาพพรีเมี่ยม ระยะเวลาในการผลิตก็รอไม่นาน 10 - 20 วันเท่านั้น ยิ่งถ้าคุณเข้าใจความต้องการของตัวเอง อธิบายคอนเซปต์ได้อย่างเข้าใจ งานก็ไวยิ่งขึ้น ทำงานกับโรงงานมืออาชีพคุณไม่ต้องกังวลอะไรเลย ประหยัดเวลา และประหยัดต้นทุนอีกด้วย
  
  

จากที่กล่าวไปเบื้องต้น แค่คุณเช็กลิสต์ตามนี้ก็จะได้ถุงกระดาษมีโลโก้ที่มีคุณภาพ ตรงตามวัตถุประสงค์และใช้งานได้จริง อย่างมีคุณภาพแถมประหยัดต้นทุน ถ้าใครที่กำลังสนใจอยากผลิตถุงกระดาษมีโลโก้ แก้วกาแฟ บรรจุภัณฑ์กระดาษสำหรับอาหาร หรืออยากให้แบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้สินค้า ก็สามารถเลือกใช้บริการกับงานพิมพ์ถูกได้

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท งานพิมพ์ถูก จำกัด

Tel:  093-935-9668 , 02-266-3738-39 เฉพาะ จ - ศ
Tel:  ( 02-413-5660-2 เฉพาะวันเสาร์ )
E-mail: nganpimtook@gmail.com
Facebook: www.facebook/งานพิมพ์ถูก.com
Line: ID @nganpimtook