เลือกกระดาษสติ๊กเกอร์อย่างไรให้เหมาะสมกับงาน

เลือกกระดาษสติ๊กเกอร์อย่างไรให้เหมาะสมกับงาน

ทำความรู้จักประเภทสติ๊กเกอร์

สติ๊กเกอร์กระดาษ

คงเป็นปัญหาไม่น้อยสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มทำธุรกิจหรือมีโปรเจกต์สินค้าใหม่ ๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้ฉลากสินค้า ซึ่งตัวเลือกของสติ๊กเกอร์นั้นก็ค่อนข้างมีความหลากหลายอาจจะทำให้หลาย ๆ คนเกิดความสับสนในการเลือกสติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมกับสินค้า ตัวอย่างปัญหาที่เจอบ่อย ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของสีบนสติ๊กเกอร์หลุดลอกตามรอยขีดข่วน หรือช่วงนี้นิยมใช้เจลแอลกอฮอล์ สเปร์ยแอลกอฮอล์ในการล้างมือ ก็จะทำให้สีบนฉลากสติ๊กเกอร์หลุดลอกเปื้อนตามมือ และที่เป็นปัญหาไม่แพ้กันคือ ความคมชัดที่สั่งพิมพ์ลงบนสติ๊กเกอร์ทุกรูปแบบ อ่านมาถึงจุดนี้ คุณอาจจะสงสัยว่า การจะเลือกใช้สติ๊กเกอร์มีวิธีเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสมกับงานและมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

เริ่มทำความรู้จักประเภทสติ๊กเกอร์

  1. สติ๊กเกอร์กระดาษ (Paper Sticker)
    เป็นสติ๊กเกอร์ที่ผู้ประกอบการนึกถึงเป็นอย่างแรก ด้วยความสวยงามที่ได้คือ มีความมินิมอล ชิ้นงานดูมีมูลค่ามากขึ้น ที่สำคัญต้นทุนราคาประหยัดอีกด้วย สติ๊กเกอร์กระดาษก็จะจำแนกเนื้อกระดาษแยกออกไปดังนี้ สติ๊กเกอร์กระดาษขาวเงา สติ๊กเกอร์กระดาษขาวด้าน สติ๊กเกอร์กระดาษเงินเงา สติ๊กเกอร์กระดาษทองเงา ซึ่งคุณสมบัติ สามารถเปียกหรือโดนน้ำได้เล็กน้อยและทนความร้อนได้ประมาณ 90 องศาเซลเซียส แต่ด้วยความเข้าใจผิด หรือทราบข้อมูลเกี่ยวกับสติ๊กเกอร์กระดาษไม่มากนัก ปัญหาที่เกิดตามมาของสติ๊กเกอร์กระดาษ คือ สีหลุดลอกจากรอยขีดข่วน ไม่สามารถใช้ซ้ำได้ หากติดสติ๊กเกอร์ไม่ตรงตามจุด หรือติดลงบนขวดหรือพื้นผิวพลาสติก ก็จะทิ้งคราบกาวรอยสติ๊กเกอร์ไว้ และอีกอย่างสติ๊กเกอร์กระดาษไม่สามารถ ใช้กับขวดที่มีความโค้ง หรือนูนได้ เนื่องจากอาจเกิดรอยยับ มูลค่าสินค้าอาจจะลดลงไปได้

    สติ๊กเกอร์กระดาษเหมาะกับการใช้งานแบบไหน
    เหมาะกับการติดลงบนวัตถุที่อยู่ในที่แห้ง ไม่โดนน้ำ ไม่โดนฝน อย่างเช่น เครื่องดื่มซึ่งมีความเหมาะสมมากสำหรับงานที่ไม่เน้นเรื่องความทนทาน เช่น สติ๊กเกอร์บาร์โค้ดสินค้า สติ๊กเกอร์ติดผลไม้ สติ๊กเกอร์แสดงราคา หรือเป็นสินค้าที่ไม่ใช่เนื้อผิวพลาสติกจะติดและลอกออกได้ง่ายกว่า

  2. สติ๊กเกอร์พีวีซี (PVC Sticker)
    สติ๊กเกอร์ PVC คือ สติ๊กเกอร์ที่มีความทนทานมากกว่าและพัฒนาใช้งานได้ดีกว่าแบบกระดาษ จริง ๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การเลือกใช้งาน PVC จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน(สีที่จะหลุดลอกนั้นก็มีโอกาสเกิดน้อยกว่าแบบกระดาษ) ทนน้ำ ทนความร้อนได้มากกว่า เนื้อสัมผัสเหนียวยืดหยุ่น โอกาสฉีกขาดเป็นไปได้ยากกว่า ปัญหาหลัก ๆ ที่ควรระวังคือ ความคมชัดของตัวสติ๊กเกอร์ แต่ไม่ต้องกังวลเราสามารถปรัปแก้ได้ตั้งแต่ขั้นตอนดีไซน์ และปรึกษาโรงพิมพ์ก่อนสั่งผลิต

    สติ๊กเกอร์พีวีซีแบ่งพื้นผิวของสติ๊กเกอร์ออกเป็น 3 แบบที่นิยมมากที่สุด

      • แบบเนื้อใส ผิวโปร่งใส มองทะลุผ่านได้ เนื้อเหนียว ฉีกไม่ขาด กันน้ำได้ดี แต่ราคาค่อนข้างสูง จะพบบ่อยในการใช้เป็นสติ๊กเกอร์เครื่องดื่ม สติ๊กเกอร์โลโก้ กล่องขนม หรือเครื่องสำอาง

      • แบบเนื้อขาวเงา เนื้อสติ๊กเกอร์สีขาว ทึบแสง มีความมันเงาบนผิว ทนความร้อน และความชื้นได้ดี

      • แบบเนื้อขาวด้าน เนื้อสติ๊กเกอร์สีขาว ทึบแสง คล้ายแบบขาวเงา แต่ไม่มีความมันเงา ให้ผิวสัมผัสแบบด้านคล้ายกระดาษ ซึ่งผู้ประกอบการคนไหนอยากได้สติ๊กเกอร์กันน้ำเนื้อสัมผัสคล้ายกระดาษ สติ๊กเกอร์ PVC เนื้อด้านถือว่าตอบโจทย์

    สติ๊กเกอร์ PVC เหมาะกับการใช้งานแบบไหน
    เหมาะกับงานที่ต้องอยู่ในการแช่น้ำ โดนน้ำ โดนฝน หรือตากแดด เพราะคุณสมบัติของเขา คือ การกันน้ำได้ดีและยังทนความร้อนได้ประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส แต่ถ้าโดนความร้อนมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ก็อาจจะเริ่มหดตัวและเกิดรอยย่นได้ต้องการให้สีและตัวสติ๊กเกอร์ติดทนนานอยู่บนพื้นผิวของวัสดุที่แปะลงไป เช่น สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า เครื่องสำอาง โฟมล้างหน้า สติ๊กเกอร์สำหรับตกแต่งยานยนต์ สติ๊กเกอร์ตกแต่งแก้วน้ำร้านคาเฟ่ หรือฉลากติดเครื่องดื่ม สติ๊กเกอร์ PVC ก็เอาอยู่

  3. สติ๊กเกอร์พีพี (PP Sticker)
    คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ คือ เนื้อสัมผัสที่บางเบา แต่ทนทานความร้อนได้สูงสามารถนำเข้าไมรโครเวฟได้ปกติ(ทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส) ที่สำคัญกันน้ำได้ด้วยเช่นกัน เมื่อลอกออกก็จะไม่ทิ้งคราบกาวไว้อีกด้วย ความรู้สึกที่ได้ต่อสินค้าที่ติดสติ๊กเกอร์ PP คือ ความภูมิฐาน ความน่าเชื่อถือ เพิ่มความหรูหราให้แบรนด์และสินค้าได้ หากนึกไม่ออกว่าเนื้อของสติ๊กเกอร์พีพี เป็นแบบไหน ให้นึกถึงฉลากบนขวดแชมพู ครีมนวด สกินแคร์ ครีมบำรุง หรือบนกล่องอาหารแช่แข็ง

    รูปแบบของสติ๊กเกอร์พีพี มี 3 แบบ
    • เนื้อใส : ทนน้ำได้ดี เนื้อบางกว่าพีวีซี เรียบเนียนไปกับผิววัสดุที่แปะได้มากกว่า
    • เนื้อสีขาว : มีความทึบแสง ผิวมันเงา ทนน้ำและความร้อนได้มากกว่าพีวีซี และเนื้อผิวบางเรียบเนียน
    • เนื้อด้าน : ไม่มีความมันเงา แต่ให้ความรู้สึกคล้ายพื้นผิวกระดาษ

  4. สติ๊กเกอร์พีอีที (PET Sticker)
    จัดอยู่ในกลุ่มสติ๊กเกอร์ชนิดที่มีความทนทานสูง ทนความร้อนได้มากถึง 140 – 200 องศาเซลเซียส กันน้ำได้แบบ 100% หรือกันความเย็นติดลบมากกว่า 8 องศา ซึ่งความนิยมของสติ๊กเกอร์พีอีที (PET) ใช้กับงานที่ต้องการความทนทานมาก ๆ เนื้อพลาสติก PET

    สติ๊กเกอร์พีอีที (PET) เหมาะกับการใช้งานแบบไหน
    เหมาะกับใช้งาน การบอกรายละเอียดเครื่องใช้ไฟฟ้าบนฉลาก เนื่องจากอายุการใช้งานค่อนข้างนาน จึงไม่ทำให้ข้อมูลเลือนลาง หรือเครื่องจักรที่ต้องใช้งานบนความร้อนสูง หรืออยู่กับความชื้นมาก ๆ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการนำไปทำเป็นสติ๊กเกอร์ติดอาหารแช่แข็ง

 

มาถึงตอนนี้มั่นใจได้ว่าคุณจะเลือกสติ๊กเกอร์ที่ถูกกับจุดประสงค์การใช้งานของแบรนด์คุณอย่างแน่นอน แต่อีกหนึ่งสิ่งที่เมื่อเลือกเนื้อสัมผัส หรือรูปแบบสติ๊กเกอร์แล้ว ความคมชัดของรายละเอียดบนฉลากนั้นก็ยังจำเป็นอยู่ เลือกโรงพิมพ์ที่สามารถให้ความรู้ การแนะนำคุณได้อย่างมืออาชีพ หากคุณต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถปรึกษางานพิมพ์ถูกของเราได้ เพราะเราคือ โรงงานรับผลิตและออกแบบสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการ ที่มีประสบการณ์ยาวนาน นอกจากคุณจะได้งานสติ๊กเกอร์แบบคุณภาพแล้ว ก็ยังได้ประหยัดต้นทุนการผลิต พร้อมประสบการณ์ดี ๆ ทั้งก่อนและหลังการขายที่เรามอบให้คุณ สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดตามข้อมูลที่อยู่ด้านล่างนี้ได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท งานพิมพ์ถูก จำกัด

Tel:  093-935-9668 , 02-266-3738-39 เฉพาะ จ - ศ
Tel:  ( 02-413-5660-2 เฉพาะวันเสาร์ )
E-mail: nganpimtook@gmail.com
Facebook: www.facebook/งานพิมพ์ถูก.com
Line: ID @nganpimtook

Visitors: 528,081